โปรเเกรมภาษาคอมพิวเตอร์
(ภาพจาก:http://studentlanka.com/wp-content/uploads/2012/01/web_programming_language.jpg)
ภาษาคอมพิวเตอร์คืออะไร เรามาดูกันดีกว่า:))
ยุคที่ 1 : ภาษาเครื่อง (Machine Language)
ภาษาเครื่อง เป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ระดับต่ำที่สุด ซึ่งคอมพิวเตอร์เข้าใจ
ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านตัวแปลภาษาเพราะเขียนคำสั่งและแทนข้อมูลด้วยเลขฐานสอง (Binary
Code) ทั้งหมด ซึ่งเป็นการเขียนคำสั่งด้วยเลข 0 หรือ 1 ดังตัวอย่างคำสั่งภาษาเครื่อง ดังนี้
ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านตัวแปลภาษาเพราะเขียนคำสั่งและแทนข้อมูลด้วยเลขฐานสอง (Binary
Code) ทั้งหมด ซึ่งเป็นการเขียนคำสั่งด้วยเลข 0 หรือ 1 ดังตัวอย่างคำสั่งภาษาเครื่อง ดังนี้
คำสั่งภาษาเครื่อง (Machine Code)
|
ความหมาย
| |
0010 0000
|
โหลดข้อมูลจากหน่วยความจำ
| |
0100 0000
|
ดำเนินการบวกข้อมูล
| |
0011 0000
|
เก็บข้อมูลลงในหน่วยความจำ
|
ดังนั้นนักเขียนโปรแกรมจึงไม่นิยมที่จะเขียนโปรแกรมด้วยภาษาเครื่อง เพราะทำการแก้ไข และเขียนโปรแกรมได้ยากทำให้เกิดยุ่งยากในการจดจำ และเขียนคำสั่งต้องใช้เวลามากในการเขียนโปรแกรม รวมทั้งการหาข้อผิดพลาดจากการทำงานของโปรแกรม และโปรแกรมที่เขียนขึ้นทำงานเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่มีฮาร์ดแวร์เดียวกันเท่านั้น (Machine Dependent)
ข้อดีของภาษาเครื่อง คือสามารถเขียนโปรแกรมควบคุมการทำงานคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง และสั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างรวดเร็ว
ยุคที่ 2 ภาษาแอสเซมบลี ( Assembly Language)
ภาษาแอสเซมบลี จัดอยู่ในภาษาระดับต่ำ และภาษาแอสเซมบลีจะเขียนคำสั่งเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ เพื่อใช้แทนคำสั่ง ภาษาเครื่อง ทำให้นักเขียนโปรแกรมสามารถเขียนโปรแกรมได้ง่ายขึ้น โดยการจดจำรหัสคำสั่งสั้น ๆ ที่จำได้ง่าย ซึ่งเรียกว่า นิวมอนิกโค้ด (Mnemonic code) เช่น
คำสั่งนิวมอนิกโคด
( Mnemonic code) |
คำสั่งภาษาเครื่อง
|
ความหมาย
|
LOAD
|
0010 0000
|
โหลดข้อมูลจากหน่วยความจำ
|
ADD
|
0100 0000
|
ดำเนินการบวกข้อมูล
|
SUB
|
1101 0000
|
ดำเนินการลบข้อมูล
|
MOV
|
1001 0000
|
ย้ายข้อมูลเข้าออกจากหน่วยความจำ
|
STROE
|
0011 0000
|
เก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำ
|
สรุปสั้นๆคือคำสั่งที่เขียนด้วยภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ในยุคที่ 1 และที่ 2 จะต้องใช้เทคนิคการเขียนโปรแกรมสูง เพราะมีความยืดหยุ่นในการเขียนน้อยมาก และมีความยากในการเขียน คำสั่งสำหรับผู้เขียนโปรแกรม แต่สามารถควบคุมและเข้าถึงการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง และมีความรวดเร็วกว่าการใช้ภาษาระดับอื่น ๆ
ยุคที่ 3 ภาษาระดับสูง ( High-level Language)
ภาษาระดับสูงถือว่าเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในยุคที่สาม ( Third-generation
language) โดยมีโครงสร้างภาษาและชุดคำสั่งเหมือนกับภาษาอังกฤษ รวมทั้งสามารถใช้นิพจน์ทางคณิตศาสตร์ในการคำนวณได้ด้วย ทำให้ผู้เขียนโปรแกรมสะดวกในการเขียนคำสั่งและแสดงผลลัพธ์ได้ตามต้องการ
language) โดยมีโครงสร้างภาษาและชุดคำสั่งเหมือนกับภาษาอังกฤษ รวมทั้งสามารถใช้นิพจน์ทางคณิตศาสตร์ในการคำนวณได้ด้วย ทำให้ผู้เขียนโปรแกรมสะดวกในการเขียนคำสั่งและแสดงผลลัพธ์ได้ตามต้องการ
สรุปสั้นๆก็คือ มีการเขียนโปรแกรมที่ง่ายกว่าในยุคที่
2 สามารถทำงานได้บนเครื่อง คอมพิวเตอร์หลายระดับ (Machine
Independent) โดยต้องใช้ควบคู่กับตัวแปลภาษา (Compiler or
Interpreter) สำหรับเครื่องนั้น ๆ และมีความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาได้มากกว่าภาษาระดับต่ำ
ยุคที่ 4 ภาษาระดับสูงมาก ( Very high-level Language)ภาษาระดับสูงมากเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ยุคที่สี่ ( Fourth-generation language) ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมด้วยคำสั่งสั้น ๆ และง่ายกว่าภาษาในยุคก่อน ๆ มีการทำงาน แบบไม่จำเป็นต้องบอกลำดับของขั้นตอนการทำงาน เพียงนักเขียนโปรแกรมกำหนดว่าต้องการให้ โปรแกรมทำอะไรเท่านั้นโดยไม่ต้อง ทราบว่าทำได้อย่างไร ทำให้เขียนโปรแกรมได้ง่ายและรวดเร็วกว่าภาษาระดับสูงในยุคที่ 3 ภาษาระดับสูงมากทำงาน เหมือนกับภาษาพูดว่าต้องการอะไรและเขียนเหมือนภาษาอังกฤษดังตัวอย่าง เช่น |
TABLE FILE SALES
SUM UNITS BY MONTH BY CUSTOMER BY PRODUCT
ON CUSTOMMER SUBTOTAL PAGE BREAK
END
|
ยุคที่ 5 ภาษาธรรมชาติ ( Natural Language)
ภาษาธรรมชาติจัดเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า ( Fifth generation language) คือ การเขียนคำสั่ง หรือสั่งงานคอมพิวเตอร์ทำงานโดยการใช้ภาษาธรรมชาติต่าง ๆ เช่น ภาพ หรือ เสียง โดยไม่สนใจรูปแบบไวยากรณ์หรือโครงสร้างของภาษามากนักซึ่งคอมพิวเตอร์จะพยายามคิดวิเคราะห์ และแปลความหมายโดยอาศัยการเรียนรู้ด้วยตนเองและระบบองค์ความรู้( Knowledge Base System) มาช่วยแปลความหมายของคำสั่งต่าง ๆ และตอบสนองต่อผู้ใช้งาน
ตัวอย่างภาษาคอมพิวเตอร์ในยุคที่ 5 เช่น
SUM SHIPMENTS BY STATE BY DATE
สรุปสั้นๆคือผู้เขียนโปรแกรมสามารถเขียนโปรแกรมได้เร็ว โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม แต่คอมพิวเตอร์ที่ใช้โปรแกรมต้องมีระบบรับคำสั่ง และประมวลผลแบบอัจฉริยะ สามารถตอบสนองและทำงานได้หลายแบบ |
อ่านจบกันเเล้วหวังว่าจะเข้าใจเรื่องโปรเเกรมภาษาคอมพิวเตอร์กันบ้างนะ