วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

WEEK4 โปรเเกรมภาษาคอมพิวเตอร์


          โปรเเกรมภาษาคอมพิวเตอร์        

             
                     (ภาพจาก:http://studentlanka.com/wp-content/uploads/2012/01/web_programming_language.jpg)                             
 ภาษาคอมพิวเตอร์คืออะไร เรามาดูกันดีกว่า:))  

            ภาษาคอมพิวเตอร์ เป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อควบคุมและสั่งงานให้เครื่องทำงานตามคำสั่งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ผู้ใช้ต้องการ    แบ่งออกเป็น 5 ยุคคือ
     

                    ยุคที่ 1 : ภาษาเครื่อง (Machine Language)

                ภาษาเครื่อง เป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ระดับต่ำที่สุด ซึ่งคอมพิวเตอร์เข้าใจ
ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านตัวแปลภาษาเพราะเขียนคำสั่งและแทนข้อมูลด้วยเลขฐานสอง (Binary
Code) ทั้งหมด ซึ่งเป็นการเขียนคำสั่งด้วยเลข 0 หรือ 1 ดังตัวอย่างคำสั่งภาษาเครื่อง ดังนี้

คำสั่งภาษาเครื่อง (Machine Code)
ความหมาย
0010 0000
โหลดข้อมูลจากหน่วยความจำ
0100 0000
ดำเนินการบวกข้อมูล
0011 0000
เก็บข้อมูลลงในหน่วยความจำ

                ดังนั้นนักเขียนโปรแกรมจึงไม่นิยมที่จะเขียนโปรแกรมด้วยภาษาเครื่อง เพราะทำการแก้ไข และเขียนโปรแกรมได้ยากทำให้เกิดยุ่งยากในการจดจำ และเขียนคำสั่งต้องใช้เวลามากในการเขียนโปรแกรม รวมทั้งการหาข้อผิดพลาดจากการทำงานของโปรแกรม และโปรแกรมที่เขียนขึ้นทำงานเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่มีฮาร์ดแวร์เดียวกันเท่านั้น (Machine Dependent)
               ข้อดีของภาษาเครื่อง คือสามารถเขียนโปรแกรมควบคุมการทำงานคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง และสั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างรวดเร็ว


                     ยุคที่ 2 ภาษาแอสเซมบลี ( Assembly Language)

               ภาษาแอสเซมบลี จัดอยู่ในภาษาระดับต่ำ และภาษาแอสเซมบลีจะเขียนคำสั่งเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ เพื่อใช้แทนคำสั่ง  ภาษาเครื่อง ทำให้นักเขียนโปรแกรมสามารถเขียนโปรแกรมได้ง่ายขึ้น โดยการจดจำรหัสคำสั่งสั้น ๆ ที่จำได้ง่าย ซึ่งเรียกว่า นิวมอนิกโค้ด (Mnemonic code) เช่น

คำสั่งนิวมอนิกโคด
( Mnemonic code)
คำสั่งภาษาเครื่อง
ความหมาย
LOAD
0010 0000
โหลดข้อมูลจากหน่วยความจำ
ADD
0100 0000
ดำเนินการบวกข้อมูล
SUB
1101 0000
ดำเนินการลบข้อมูล
MOV
1001 0000
ย้ายข้อมูลเข้าออกจากหน่วยความจำ
STROE
0011 0000
เก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำ
                
               
               สรุปสั้นๆคือคำสั่งที่เขียนด้วยภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ในยุคที่ 1 และที่ 2 จะต้องใช้เทคนิคการเขียนโปรแกรมสูง เพราะมีความยืดหยุ่นในการเขียนน้อยมาก และมีความยากในการเขียน  คำสั่งสำหรับผู้เขียนโปรแกรม แต่สามารถควบคุมและเข้าถึงการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง และมีความรวดเร็วกว่าการใช้ภาษาระดับอื่น ๆ

               

                ยุคที่ 3 ภาษาระดับสูง ( High-level Language)

                ภาษาระดับสูงถือว่าเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในยุคที่สาม ( Third-generation
language) โดยมีโครงสร้างภาษาและชุดคำสั่งเหมือนกับภาษาอังกฤษ รวมทั้งสามารถใช้นิพจน์ทางคณิตศาสตร์ในการคำนวณได้ด้วย ทำให้ผู้เขียนโปรแกรมสะดวกในการเขียนคำสั่งและแสดงผลลัพธ์ได้ตามต้องการ 

                สรุปสั้นๆก็คือ มีการเขียนโปรแกรมที่ง่ายกว่าในยุคที่ สามารถทำงานได้บนเครื่อง   คอมพิวเตอร์หลายระดับ (Machine Independent) โดยต้องใช้ควบคู่กับตัวแปลภาษา (Compiler or Interpreter)       สำหรับเครื่องนั้น ๆ และมีความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาได้มากกว่าภาษาระดับต่ำ
        

                  ยุคที่ ภาษาระดับสูงมาก ( Very high-level Language)

               ภาษาระดับสูงมากเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ยุคที่สี่ ( Fourth-generation language)           ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมด้วยคำสั่งสั้น และง่ายกว่าภาษาในยุคก่อน มีการทำงาน       แบบไม่จำเป็นต้องบอกลำดับของขั้นตอนการทำงาน เพียงนักเขียนโปรแกรมกำหนดว่าต้องการให้       โปรแกรมทำอะไรเท่านั้นโดยไม่ต้อง ทราบว่าทำได้อย่างไร ทำให้เขียนโปรแกรมได้ง่ายและรวดเร็วกว่าภาษาระดับสูงในยุคที่  ภาษาระดับสูงมากทำงาน       เหมือนกับภาษาพูดว่าต้องการอะไรและเขียนเหมือนภาษาอังกฤษดังตัวอย่าง เช่น


                    TABLE FILE SALES
                    SUM UNITS BY MONTH BY CUSTOMER BY PRODUCT
                    ON CUSTOMMER SUBTOTAL PAGE BREAK
                    END

                ยุคที่ 5 ภาษาธรรมชาติ ( Natural Language)

                  ภาษาธรรมชาติจัดเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า ( Fifth generation language)     คือ การเขียนคำสั่ง หรือสั่งงานคอมพิวเตอร์ทำงานโดยการใช้ภาษาธรรมชาติต่าง ๆ เช่น ภาพ หรือ      เสียง โดยไม่สนใจรูปแบบไวยากรณ์หรือโครงสร้างของภาษามากนักซึ่งคอมพิวเตอร์จะพยายามคิดวิเคราะห์       และแปลความหมายโดยอาศัยการเรียนรู้ด้วยตนเองและระบบองค์ความรู้( Knowledge     Base System)          มาช่วยแปลความหมายของคำสั่งต่าง ๆ และตอบสนองต่อผู้ใช้งาน
                ตัวอย่างภาษาคอมพิวเตอร์ในยุคที่ 5 เช่น
                    SUM SHIPMENTS BY STATE BY DATE
        
               สรุปสั้นๆคือผู้เขียนโปรแกรมสามารถเขียนโปรแกรมได้เร็ว โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม แต่คอมพิวเตอร์ที่ใช้โปรแกรมต้องมีระบบรับคำสั่ง และประมวลผลแบบอัจฉริยะ สามารถตอบสนองและทำงานได้หลายแบบ


                  อ่านจบกันเเล้วหวังว่าจะเข้าใจเรื่องโปรเเกรมภาษาคอมพิวเตอร์กันบ้างนะ



วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

WEEK3 Social Network กับนักเรียนและสังคมไทย


Social Network กับนักเรียนและสังคมไทย


(ภาพจากhttps://supawannuannil.files.wordpress.com/2014/07/social-media1.jpg?w=465&h=418)

เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) หมายถึงอะไร

           หมายถึงกลุ่มคนที่รวมกันเป็นสังคมมีการทากิจกรรมร่วมกันบนอินเทอร์เน็ต ในรูปแบบของเว็บไซต์มีการแผ่ขยายออกไปเรื่อย ๆ เป็นรูปแบบของการสื่อสารข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ทาให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ตเป็นสังคมขึ้นมา การสร้างชุมชนใหม่บนอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสาคัญในการติดต่อสื่อสาร สามารถทากิจกรรมต่างๆ ทั้งเพื่อการศึกษา ธุรกิจ และความบันเทิง

Social Network เกี่ยวกับตนเองเเละสังคมอย่างไร

        
                 ทุกวันนี้มีคนใช้ชีวิตอยู่กับสังคมออนไลน์มากขึ้นทุกวัน และมีการใช้ Social Mediaที่ผู้ใช้เป็นผู้สื่อสาร หรือเขียนเล่า เนื้อหา เรื่องราว ประสบการณ์ บทความ รูปภาพ และวิดีโอ ที่ผู้ใช้เขียนขึ้นเอง ทำขึ้นเอง หรือพบเจอจากสื่ออื่นๆ แล้วนำมาแบ่งปันให้กับผู้อื่นที่อยู่ในเครือข่ายของตน ผ่านทางเว็บไซต์ Social Network ที่ให้บริการบนออนไลน์ 
              ปัจจุบันการสื่อสารแบบนี้ทาผ่านทาง Internetและโทรศัพท์มือถือ เช่น กระดานความคิดเห็น เว็บบล็อก วิกิ (wiki)Podcast รูปภาพ และวิดีโอ โดยมีเทคโนโลยีที่รองรับเนื้อหา (content) เหล่านี้ ได้แก่ เว็บบล็อก เว็บไซต์ที่แชร์รูปภาพ แชร์เพลง แชร์วิดีโอ เว็บบอร์ด อีเมล์ IM (Instant Massage) เครื่องมือที่ให้บริการ เช่นVoice over IP ส่วนเว็บไซต์ที่ให้บริการ Social Network ได้แก่ Google GroupFacebookMySpaceหรือ Youtube เป็นต้น

(ภาพจากhttp://bargeo.fr/wp-content/uploads/2013/06/Reseaux-sociaux.jpg)

ทำไมSocial Network ถึงกลายมาเป็นเครื่องมือทางการตลาดยอดนิยมได

         เนื่องจากการโฆษณาผ่านSocial Network นั้นต้นทุนต่ำแต่มีประสิทธิผลสูง หรือหมายถึงมีประสิทธิภาพในการโฆษณาสูงมาก สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง และกระจายการรับรู้ได้รวดเร็ว ทำให้ธุรกิจต่างๆ ต่างให้ความสนใจ โดยระยะแรกนั้นธุรกิจที่มีขนาดเล็ก มีเงินลงทุนน้อยได้ทดลองใช้งานก่อนและเมื่อประสบความสำเร็จ ก็ทำให้ธุรกิจขนาดใหญ่ต้องลงมาโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่าน Social Network ควบคู่ไปกับสื่อโฆษณาที่เป็น mass marketing อื่นๆ
(ภาพจากhttp://www.takraonline.com/Images/Features/Facebook/facebook-commerce.jpg)

ประโยชน์ของ Social Network

        Social Network มีจุดเด่นหลัก คือ ช่วยเรื่องการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ สื่อสารได้ในวงกว้าง ได้หลายรูปแบบ เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ในเชิงการใช้งานทั่วไปแล้ว สามารถสื่อสารกับคนที่มีความชื่นชอบในเรื่องเดียวกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือรวมตัวกันทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งพบป่ะเพื่อน ที่ไม่เคยเจอกันนานแล้ว หรือเพื่อนที่อยู่ไกลกันได้อีกด้วย และด้วยความที่ Social Network เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วและเป็นช่องทางการสื่อสารได้ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้จึงมีการนำมาใช้ทางด้านธุรกิจ โปรโมทตนเอง โปรโมทสินค้า องค์กร หรือบริษัท รวมถึงใช้เป็นช่องทางสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า สร้างกิจกรรม หรือพูดคุยตอบข้อซักถามถึงสินค้าและบริการ ทำให้เรามีอีกช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้าได้

โทษของSocial network

1. เว็บไซต์ให้บริการบางแห่งอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป หากผู้ใช้บริการไม่ระมัดระวังในการกรอกข้อมูล อาจถูกผู้ไม่หวังดีนามาใช้ในทางเสียหาย หรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้
2. Social Network เป็นสังคมออนไลน์ที่กว้าง หากผู้ใช้รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือขาดวิจารณญาณ อาจโดนหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ต หรือการนัดเจอกันเพื่อจุดประสงค์ร้าย ตามที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์
3. เป็นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ้าง เพราะ Social Network Service เป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงาน รูปภาพต่างๆ ของเราให้บุคคลอื่นได้ดูและแสดงความคิดเห็น
4. ข้อมูลที่ต้องกรอกเพื่อสมัครสมาชิกและแสดงบนเว็บไซต์ในรูปแบบ Social Networkยากแก่การตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ดังนั้นอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่กาหนดอายุการสมัครสมาชิก หรือการถูกหลอกโดยบุคคลที่ไม่มีตัวตนได้
5. ผู้ใช้ที่เล่น social network และอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจสายตาเสียได้หรือบางคนอาจตาบอดได้
6. ถ้าผู้ใช้หมกหมุ่นอยู่กับ social network มากเกินไปอาจทาให้เสียการเรียนหรือผลการเรียนตกต่ำลงได้
         7.  จะทำให้เสียเวลาถ้าผู้ใช้ใช้อย่างไร้ประโยชน์




อ้างอิงจาก  https://sites.google.com/site/socialnetworksangkhmxxnlin05/khxdi-khx-seiy
                    http://crnfe2013.blogspot.com/2013/05/11-social-media.html


วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558

WEEK2 เรื่องราวที่นักเรียนสนใจ

แว้นฟ้อ หล่อเฟี้ยว 
 แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก
 (Feat. ดีเจต้นหอม, โก๊ะตี๋, วง 3.50)

วันนี้มีเพลงมาเเนะนำชื่อเพลงว่า " แว้นฟ้อ หล่อเฟี้ยว " Single แรก 
ของ วงดนตรี อารมณ์ดี แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก 
กับการนำเสนอ ความแว้น ในรูปแบบ ของ แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก
 ที่ขนขบวนกันมาสร้างความสุข ให้ทุกคนได้ยิ้มและหัวเราะกันทั่วประเทศ 
เพลงนี้ ต้องขอบคุณ นาย นิติกร สิมะลี หรือ พี่ บ๊อบบี้ สามบาทห้าสิบ 
ที่มช่วยดูแลเรื่องเพลงทั้งหมด ตั้งแต่ส่วนของเนื้อร้อง ทำนอง เรียบเรียง

การนำเสน่ห์ของเครื่องเป่า และเมโลดี้แบบไทยๆ มาอัดแบบสดๆ

เพื่อให้ได้กลิ่นของ บรรยากาศ ความสนุกที่คนไทยคุ้นเคย




ก่อนอื่นเราต้องมารู้จักนักร้องกันก่อน

เริ่มด้วย



ผดุง ทรงแสง
 หรือที่รู้จักกันในนาม แจ๊ส ชวนชื่น 

(ภาพจาก:http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=4047640)

วง 3.50
(ภาพจาก:https://m2.facebook.com/DoADot/photos/ms.c.eJw9y1EKAD)


 เจริญพร อ่อนละม้าย
หรือ โก๊ะตี๋ อารามบอย 
(ภาพจาก:http://www.newsplus.co.th/36939)

ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ 
 หรือ  ดีเจต้นหอม
(ภาพจาก:http://instagram.kapook.com/star/media/999196116152664967_17218759)
อุดม ทรงเเสง  หรือ  ดม ชวนชื่น
น้าดมมาร้องนิดเดียวจริงๆ ร้องเเค่ว่า บ้าเหรอ (55555หยอก)
(ภาพจาก:http://www.innnews.co.th/images/news/2014/44/529690-03.jpg)

รู้จักนักร้องไปเเล้วเรามาดูเนื้อกันดีกว่า


หนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว มีผมคนเดียว รูปหล่อจริง ๆ นะเนี่ย
เมื่อวาน แว้นไปปากเกร็ด เมื่อวาน แว้นไปปากเกร็ด
สาว ๆ สังเกต ถามณเดชน์ ใช่ไหมเนี่ย
หนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว มีผมคนเดียว รูปหล่อจริง ๆ นะเนี่ย
เมื่อวาน แว้นไปบางบอน เมื่อวาน แว้นไปบางบอน
สาว ๆ งามงอน บอก บอย ปกรณ์ ใช่ไหมเนี่ย

ใส่ทองขับแว้น ปากแดงดึงสก๊อย 
เฉียบขาดว้อย ๆ ปราดเปรียวเฟี้ยวฟ้าว 
รถโดดคนดีด พี่ไม่โชว์พาว ท่อบึ้มพี่ยาว ก๊อยเห็นกัดฟัน
เบาะปาด ลูกบอส ขูดชาม ไล่เม็ด
น๊อตเลส โอ๊ยเช้ด ปั้มลอย อิตาลี่
อยากนั่งฟีโน่ เคอาร์ ท่อตี โช๊คพี่ใหญ่ดี ยังไงดีวะ โฮ้โฮฮี้ว
ใหญ่จริงไหมคะพี่ขา ถึงเร็วจริง ๆ หรือเปล่า
สะใจน้องจะอยู่ยาว เป็นสก๊อยสาว ของพี่คนเดียว

ลองขึ้นรถพี่นิด ซีน่อนเปลี่ยนมาใหม่
ยืดชัก ป้าด เร็วงามไส้ ถ้าไม่ถึงใจ เดี๋ยวพาเปลี่ยนแคมป์
หนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว มีผมคนเดียว รูปหล่อจริง ๆ นะเนี่ย
เมื่อวาน แว้นรถตากแดด เมื่อวาน แว้นรถตากแดด
สาว ๆ มองแปลก เฮ้ย พี่แจ๊สใช่ไหมเนี่ย
หนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว มีผมคนเดียว รูปหล่อจริง ๆ นะเนี่ย
เมื่อวาน แว้นไปคลองถม เมื่อวาน แว้นไปคลองถม
สาว ๆ ยืมชม เห้ย น้าดมใช่ไหมเนี่ย (บ้าเหรอ)

ไอ้พวกเด็กแว้น ฟังเพลงสแกน จีบเด็กสก๊อย
ชอบแข่งมอไซต์ ตั้งแต่ปากซอย ชาวบ้านร้องด่า หายใจไม่ทัน
โสดนานเกินไปแล้ว เด็กนักเรียนจ๋า อย่าไปเชื่อมัน
สามบาทห้าสิบขอรับประกัน ว่าเด็กแว้นนั้น ไม่ดีไม่งาม
อย่าไปเชื่อ อย่าไปฟัง อย่าไปสน 
อย่าไปหา อย่าไปหลง อย่าไปเป็นสก๊อย
อย่าไปซ้อน อย่าไปกอด อย่าไปมอง
โปรดระวังเรื่องท้องก่อนวัยอันควร
ไอ้แจ๊ส แม่ มันก่อกวน ชาวบ้านชอบป่วน แว้นไปวัน ๆ

ใส่ทองขับแว้น ปากแดงดึงสก๊อย 
เฉียบขาดว้อย ๆ ปราดเปรียวเฟี้ยวฟ้าว 
รถโดดคนดีด พี่ชอบพาว ท่อบึ้มพี่ยาว ว้าว ว้าว วาว วาว
เห้ยใหญ่จริงไหมคะพี่ขา ถึงเร็วจริง ๆ อ่ะเปล่าอ่ะ
สะใจน้องจะอยู่ยาว เป็นสก๊อยสาว ของพี่คนเดียวนะ
หนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว มีผมคนเดียว รูปหล่อจริง ๆ นะเนี่ย
เมื่อวาน แว้นไปเมืองชล เมื่อวาน แว้นไปเมืองชล
สาว ๆ หนองมน ถามว่าคนใช่ไหมเนี่ย

หนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว มีผมคนเดียว รูปหล่อจริง ๆ นะเนี่ย
เมื่อวาน แว้นไประยอง เมื่อวาน แว้นไประยอง
สาว ๆ จ้องมอง บอก เหมือนคนระยอง ฮิ
เหมือนฮิ หน้าเหมือนฮิ เหมือนฮิ เหมือนคนระยอง ฮิ




ลองฝึกร้องเพลงนี้ดู  เพลงจังหวะมันส์ๆ  เเล้วจะทำให้คุณติดใจเหมือนเรา<ปุก ปุกปุก ปักปัก>

เเถมๆๆ มีเบื้องหลังการถ่ายทำMVมาให้ดูด้วย






อ้างอิงจาก:http://chordtabs.in.th/song.php?song_id=12030&chord=yes
                   https://youtu.be/NxujF-Oc-OA


วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558

WEEK1 เทคโนโลยีกับชีวิตประจำวันของนักเรียน

เทคโนโลยีกับชีวิตประจำวันของนักเรียน

    

(ภาพจากhttp://pirun.kps.ku.ac.th/~b5620600157/)

เทคโนโลยีคืออะไร?
          เทคโนโลยี (Technology) คือ การใช้ความรู้ เครื่องมือ ความคิด หลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการตลอดจน ผลงานทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ่งประดิษฐ์และวิธีการ มาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่ง ขึ้นและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีที่ใช้เป็นประจำมีดังนี้

1)โน้ตบุ๊ค(Notebook)



(ภาพจาก:http://www.mln.com.au/img/files/3440/350u2b-t2.jpg)


           โน้ตบุ๊คถือว่าเป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่ทุกบ้านต้องมีไว้อำนวยความสะดวกก็ว่าได้ ด้วยในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้มีขนาดเล็กลง และ ราคาก็ไม่แพงนัก คนทั่วไปสามารถซื้อหามาใช้ได้เหมือนกับเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยทั่วไป  สามารถทำงานได้เหมือนกับคอมพิวเตอร์  เเละยังพกพาได้ด้วย


2)โทรศัพท์(Smartphone)
(ภาพจาก:http://i-cdn.phonearena.com/images/articles/172438-image)

                       
                     โทรศัพยุคใหม่ที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิม ที่มีความสามารถมากกว่าแค่การรับสายและโทรออกมีแอพพิเคชั่นเสริมความสามารถ ต่าง ๆ มากมาย แทบจะเรียกว่าเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ขนาดพบพามีระบบการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 3G WIFI มี Port Mini USB เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ รับ-ส่งข้อมูลต่าง ๆ ด้วยความเร็วสูง      รอง รับระบบมัลติมีเดียต่าง ๆ ดูหนัง avi mp4 3gp ฟังเพลง mp3 acc wav และอื่น ๆ หลากหลายในปัจจุบันมีระบบ IOS Symbian Android Windows Phone และ Blackberry ที่โด่งดังได้รับความนิยมนอกจากจะเหมือนคอมพิวเตอร์ขนาดพบพาแล้ว ยังเหมือนมีกล้องพกพาอีกด้วย


          ปัจจุบันเทคโนโลยีได้มามีบทบาทกับเรามากขึ้น ทุกคนล้วนใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตในทุก ๆ ด้าน ดังนั้นเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ชีวิตประจำวันมีแต่ความเร่งรีบต้องแข่งขันกับเวลา การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานแล้วยังช่วยย่นระยะเวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้สั้นลง  
            
        เเต่เทคโนโลยีไม่ได้มีเเต่ข้อดี  มีข้อเสียอีกด้วยดังนั้นควรใช้เทคโนโลยีให้ถูกเวลา   เพื่อจะไม่ได้เป็นผลเสียต่อตัวเองด้วย


อ้างอิง:https://poppygis.wordpress.com/